วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

10 อันดับ ถนนที่สวยจนน่าตกใจ ว่ากันว่า ต้องไปให้ได้ "ก่อนตาย"!


10 อันดับ ถนนที่สวยจนน่าตกใจ ว่ากันว่า ต้องไปให้ได้ "ก่อนตาย"!

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบ ขับรถ กินลม ชมวิว ไม่ว่าจะเป็น ถนนเลียบชายฝั่ง ถนนที่ตัดผ่านหุบเขา สำนักข่าวต่างประเทศได้รวบรวม 10 อันดับ ถนนเส้นที่เหมาะกับการขับรถชมวิวมากที่สุดในโลก และว่ากันว่า เป็น 10 อันดับถนน ที่ต้องไปเยือนให้ได้ ก่อนตาย
อันดับ 1
"ถนนทางหลวงหมายเลข 1 บิ๊กเซอร์, แคลิฟอร์เนีย"
ภาพจาก focus.tracinglight.com
ด้วยระยะทางกว่า 140 กิโลเมตร จากซาน คาร์โปโฟโร ไปจนถึงแม่น้ำคาร์เมล ถนนสายนี้ จีงถูกโอบล้อมวิวทิวทัศน์ที่หลากหลาย จากหน้าผาเลียบชายฝั่ง ไปจนถึงป่าทึบ และเป็นถนนที่ตัดเลียบชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถือได้ว่าเป็นชายฝั่งที่มีความงดงามที่สุดในสหรัฐฯ
อันดับ 2
"เฟอร์กา พาส, สวิตเซอร์แลนด์"
ถนนเส้นนี้ได้ตัดผ่านเทือกเขาในสวิตเซอร์แลนด์ และถูกใช้เป็นฉากหนึ่งที่ใช้ถ่ายทำภาพยนต์ "เจมส์ บอนด์" ตอน "โกลด์ฟิงเกอร์"
อันดับ 3
"ถนนแอตแลนติก, นอร์เวย์"
ถนนแอตแลนติก ได้เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมือง ปี ค.ศ.1989 และถือเป็นหนึ่งในถนนสายท่องเที่ยวเส้นสำคัญของนอร์เวย์ ด้วยระยะทางกว่า 8.3 กิโลเมตร ซึ่งวิ่งระหว่าง 2 เมืองใหญ่ที่มีประชากรมากอย่าง เมืองคริสเตียนซุนด์และเมืองโมลเด จุดขายของถนนเส้นนี้คือ แทนที่จะเป็นถนนที่ตัดผ่านภูเขา หรือชายฝั่ง แต่เป็นถนนที่ตัดผ่านมหาสมุทร โดยอาศัยเกาะโขดหินเป็นจุดเชื่อม เรียกได้ว่า ความสามารถของมนุษย์นี่สุดยอดจริงๆ
อันดับ 4
"ถนนไวท์ริม อุทยานแห่งชาติแคนยอนแลนด์, ยูทาห์ สหรัฐฯ"
ภาพจาก timnowackphotography.com
ด้วยระยะทางกว่า 100 ไมล์ ของไวท์ริมโร้ด ที่วกวน และล้อไปกับความลาดชัดระดับต่างๆ ของหุบผาชัน ภูมิทัศน์หลักในอุทยานแห่งชาติแครยอนแลนด์ หากใช้รถโฟร์วีลจะต้องใช้เวลาไว้ 2-3 วัน และหากต้องการสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดโดยจักรยานเสือภูเขาก็จะต้องเผื่อเวลาเป็น 3-4 วัน ถนนเส้นนี้ยังได้ชื่อว่า เป็น "ถนนปราบเซียน" อีกเส้นหนึ่ง เพราะอาจเจอกับปัญหาทัศนวิสัยในจากฝุ่นที่คลุ้ง และสภาพภูมิอากาศที่คาดเดาได้ยาก
อันดับ 5
"ถนนเทียนอันเหมิน หูหนาน, จีน"
ภาพจาก imagescollectionvince.blogspot.com
ด้วยระยะทาง 11 กิโลเมตรของถนนเทียนอันเหมิน ซึ่งไต่จากจุดล่างสุดไปถึงความสูงๆ สุดของของภูเขาเทียนอันเหมินด้วยความสูง 131.5 เมตร ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเทียนอันเหมิน ในนมณฑลหูหนานของจีน ตัดผ่านขอบเขา ระหว่างทางสามารถสัมผัสบรรยากาศเขียวชอุ่มของต้นไม้ที่ยังมีความสมบูรณ์อยู่ ถือได้ว่า เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด
ทั้งนี้ นอกจากจะสัมผัสประสบการณ์จากรถยนต์แล้ว ทางอุทยานได้จัดกระเช้าเคเบิล ลำเลียงนักท่องเที่ยวไปยังยอดเขา ซึ่งก็ถิอเป็นประสบการณ์สุดพิเศษ เพราะมีบางจุดที่กระเช้านั้นต้องผ่านความชันถึง 37 องศา แต่ก็คงไม่เหมาะนักสำหรับผู้ที่กลัวความสูงสักเท่าใดนัก
อันดับ 6
"สะพานเซเว่นไมล์, ฟลอริดา"
สะพานเซเว่นไมล์ ถือเป็นสะพานที่มีชื่อเสียงอย่างมากในฟลอริดา ด้วยการที่ตัดผ่านมหาสมุทร จนสะพานเส้นนี้ได้รับการขนามนามว่า เป็น "ทางหลวงโพ้นทะเล"
อันดับที่ 7
"ถนนแชปแมนพีค เคปทาว์น แอฟริกาใต้"

ภาพจาก parkwayincapetown
ถนนแชปแมนพีค เป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างอ่าวนอร์ดฮุคก์และอ่าวฮาท์วซึ่งอยู่บริเวณชายฝั่งของคาบสมุทรแอตแลนติก ด้วยระยะทางกว่า 9 กิโลเมตรและทางโค้งอีกกว่า 144 โค้ง เลียบชายฝั่งหินของแชปแมนพีค ผู้ที่ใช้ถนนสายนี้จะถูกขนาดนามว่า "แชปปี้" และสามารถมองเห็นวิวได้แบบเต็มตา ถึง 180 องศา
อันดับ 8
"สเตวิลโอ พาส, อีสเทิร์นแอลป์ อิตาลี"
นิตยสารท็อปเกียร์ ได้เลือก "สเตวิลโอ พาส" เป็นถนนที่น่าขับขี่ที่สุดของโลก และเป็นที่ๆ สิงห์นักขับต้องไปเยือนให้ได้
อันดับ 9
"โคล เดอร์ทูรินิ, ฝรั่งเศส"
โคล เดอร์ทูรินิ ถือได้ว่าเป็นถนนที่ตัดผ่านเทือกเขาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาเมอร์ริตไทม์ในฝรั่งเศส และเป็นถนนที่โด่งดังจากเป็นหนึ่งในสนามแข่งรถเรลลี่มอนติคาร์โล เพราะได้ชื่อว่าเป็นถนนที่แคบ และมีโห้งหักศอกที่อันตรายสุดๆ อีกทั้ง โคล เดอร์ทูรินิ ยังถูกใช้เป็นสนามแข่งขันจักรยาน ในรายการ "ตรู เดอ ฟรอง" ถึง 3 ครั้ง
อันดับ 10
"อุโมงค์โกว์เหลียง, จีน"
อุโมงค์โกว์เหลียง เป็นถนนอุโมงค์ที่เลาะผ่านภูเขาภูเขาไท้ฮาง เมืองหูหนาน ประเทศจีน ประวัติศาสตร์ของอุโมงค์นี้น่าสนใจ เพราะถนนอุโมงค์นี้ เป็นถนนที่เกิดน้ำพักน้ำแรงของชาวบ้านในหมู่บ้านแถบนั้น ต่างเห็นพ้องต้องกันที่จะสร้างถนนอุโมงค์เส้นนี้เพื่อเชื่อมต่อกับโลกภายนอก จึงได้เริ่มโดยการแกะสลักถนน ลัดเลาะผ่านภูเขา โดยลงทุนและลงแรงทั้งหมดโดยชาวบ้านในแถบนั้น

เด็ก "นอนดึก" เสี่ยงสมองทึบ


เด็ก "นอนดึก" เสี่ยงสมองทึบ




ผลการวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า เด็กที่เข้านอนดึกหรือไม่ได้เข้านอนในเวลาที่สม่ำเสมอ จะส่งผลให้ความสามารถในการอ่านและการคิดคำนวณอยู่ในระดับต่ำหากเทียบกับเด็กที่เข้านอนเร็วและเข้านอนเป็นเวลาอย่างสม่ำเสมอ
ทีมวิจัยนำโดยศาสตราจารย์อแมนดา แซกเกอร์ ทำการวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสารระบาดวิทยาและอนามัยชุมชน ทำการเก็บข้อมูลจากเด็กอายุ 7 ขวบ จำนวนมากกว่า 11,000 คน เพื่อศึกษาว่าการนอนหลับจะมีผลกระทบกับความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กหรือไม่ และพบว่าโดยภาพรวมเด็กที่ไม่เคยมีเวลาเข้านอนอย่างสม่ำเสมอ หรือไม่เคยเข้านอนก่อนเวลา 21.00 น. มีคะแนนในการทดสอบความสามารถในการอ่าน การคิดคำนวณ และความเข้าใจในมิติสัมพันธ์ที่ต่ำกว่าเด็กที่มีพฤติกรรมการเข้านอนเร็วกว่า 21.00 น. อย่างสม่ำเสมอ และผลดังกล่าวจะชัดเจนมากในเด็กผู้หญิงด้วย
นางอแมนดาหัวหน้าทีมวิจัยระบุว่า การเข้านอนไม่เป็นเวลานั้นอาจเป็นผลสะท้อนมาจากสภาพแวดล้อมของครอบครัวที่ยุ่งเหยิง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ส่งผลมากกว่าการนอนหลับที่ถูกรบกวน โดยจากกลุ่มตัวอย่าง เด็กที่เข้านอนดึกและไม่เป็นเวลานั้นมาจากข้อด้อยด้านพื้นฐานทางสังคม ได้อ่านหนังสือน้อยในแต่ละคืน และโดยทั่วไปมักจะใช้เวลาก่อนนอนไปกับการดูทีวีเสียเป็นส่วนใหญ่

ปากกาอัจฉริยะ สั่นเตือนเมื่อเขียนผิด


ปากกาอัจฉริยะ สั่นเตือนเมื่อเขียนผิด


สองหนุ่มเยอรมันระดมทุน ผลิตปากกาดิจิตอล สามารถแจ้งเตือนเมื่อผู้ใช้เขียนคำผิด เตรียมพัฒนาเวอร์ชั่นใหม่ ตรวจหลักไวยากรณ์ได้ด้วย
ฟอล์ก วอลสกี กับแดเนียล เคสมาเชอร์ ได้ประดิษฐ์ปากกา ชื่อ Lernstift ซึ่งบรรจุเซ็นเซอร์สำหรับรับรู้การเคลื่อนไหวของมือที่กำลังเขียนตัวหนังสือ ถ้าผู้ใช้สะกดคำผิด ปากกาจะสั่นเตือนให้รู้
ปากกาเลิร์นสติฟต์ มี Wi-Fi ในตัว เชื่อมสัญญาณกับสมาร์ทโฟนหรือพีซี สำหรับอัพโหลดข้อเขียนนั้นไปโพสต์ หรือแชร์ทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือเข้าร่วมชั้นเรียนออนไลน์ในวิชาการเขียนภาษาต่างๆ
ไอเดียที่จะประดิษฐ์ปากกาฉลาดด้ามนี้ เกิดขึ้นเมื่อภรรยาของวอลสกีกำลังสอนลูกชายทำการบ้าน
ปากกาดิจิตอลที่มีในปัจจุบัน ใช้เซ็นเซอร์ระบบแสงในการรับรู้ความเคลื่อนไหวของลายมือที่เขียน แล้วแปรถ้อยคำหรือลายเส้นให้เป็นสัญญาณดิจิตอล แสดงผลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
บางรุ่นจำเป็นต้องพ่วงอุปกรณ์เสริม บางรุ่นเขียนได้บนกระดาษชนิดพิเศษเท่านั้น
@ เลิร์นสติฟต์ใช้พลังงานแบตเตอรี เปลี่ยนหัวเป็นหมึกซึมได้ มีโหมดใช้งาน 2 แบบ
แต่เลิร์นสติฟต์ ซึ่งเป็นภาษาเยอรมัน แปลว่า 'learning pen' มีคอมพิวเตอร์ในตัว ใช้ระบบปฏิบัติการลินุกซ์ ติดเซ็นเซอร์ชนิดไม่ใช้แสง, มีตัวประมวลผล หน่วยความจำ วาย-ฟาย, และระบบสั่น
เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวจะรับรู้การเขียนได้ทุกแบบ แม้แต่การเขียนกลางอากาศ ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริม ไม่ต้องใช้กระดาษพิเศษ
ในตัวปากกามีตัววัดการหมุน, ตัววัดอัตราเร่ง, และตัววัดความเข้มข้นของสนามแม่เหล็ก ทั้งหมดนี้ช่วยให้ปากการู้ว่า ผู้ใช้กำลังเขียนตัวหนังสืออะไรบ้าง
ปากกามีให้เลือกใช้ 2 โหมด แบบแรกใช้ตรวจหาการสะกดผิด แบบที่สองใช้ตรวจการเขียนลายมือ ถ้าเขียนหวัดเกินไป หรือเขียนแล้วอ่านไม่ออก ปากกาจะบอกให้รู้
@ อุปกรณ์ดิจิตอลในตัวปากกา ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียนภาษาเขียนอื่นๆเพิ่มเติมได้
เลิร์นสติฟต์มีซอฟต์แวร์ลายมือเขียนที่ถูกต้องอยู่ในตัว เอาไว้เทียบเคียงกับคำที่ผู้ใช้กำลังเขียน ในอนาคต ปากกาด้ามนี้จะตรวจการเขียนผิดหลักไวยากรณ์ได้ด้วย
ซอฟต์แวร์ที่ว่านี้ มีกว่า 40 ภาษา เวอร์ชั่นแรกที่ออกสู่ท้องตลาดจะเริ่มด้วยอังกฤษกับเยอรมัน ก่อนเพิ่มภาษาอื่นๆเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังเรียนภาษาใหม่
นักประดิษฐ์ทั้งสองกำลังระดมทุนราว 5.7 ล้านบาทผ่านเว็บไซต์ Kickstarter เพื่อผลิตและจำหน่ายปากกาดิจิตอลด้ามนี้.

แนะวิธีกำหนดลมหายใจ เพื่อสุขภาพสมองและหัวใจที่ดี

แนะวิธีกำหนดลมหายใจ เพื่อสุขภาพสมองและหัวใจที่ดี

เคยสังเกตตัวเองบ้างไหมคะว่า ทุกวันนี้เราหายใจสั้นและถี่จนเป็นนิสัยทำให้กระบวนการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์มีประสิทธิภาพลดลง


การหายใจมีความสำคัญต่อร่างกายอย่างไร?
เหตุผลที่สำคัญของการหายใจมี 2 ประการด้วยกันคือ ประการแรก การหายใจเป็นวิธีที่จะนำออกซิเจนเข้าไปในร่างกายของเราและเข้าอวัยวะไปสู่อวัยวะต่างๆ ช่วยให้ทำงานประสานกันได้ดี ประการที่สอง การหายใจเป็นวิธีที่จะนำออกซิเจนเข้าไปในร่างกายเพื่อขจัดของเสียหรือสารพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย และสั่งจิตใต้สำนึกให้ปรับอากาศหรือ"ออกซิเจน"ให้เป็นพลังปราณซึ่งเป็นพลังแห่งชีวิต
ดังนั้นการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการหายใจ ทางโยคะถือว่าสำคัญมาก เพราะเมื่อการหายใจเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมของคนจะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เช่น เมื่อผู้ใดมีอารมณ์โกรธเกิดขึ้น จะบังคับให้อัตราการหายใจถี่ขึ้น และเมื่อไรที่เรามีความสุข สบายใจ อัตราการหายใจจะช้าลงและจิตใจเกิดความสงบสุขเยือกเย็นตามไปด้วย
การกำหนดลมหายใจ โดยการฝึกสูดลมหายใจแบบโยคะ ฝึกวิธีบังคับปอด วิธีขยายปอด รู้จักวิธีหายใจที่ถูกต้อง โดยเริ่มที่หายใจเข้าสั้นกว่าการหายใจออก เป็น 1:2 ถ้าหายใจเข้า 7 วินาที ควรจะหายใจออกนาน 14 วินาที เพื่อไล่อากาศที่ไม่บริสุทธิ์ที่ค้างอยู่ในปอดให้ออกไปมากที่สุด
ถ้าเรามีการหายใจที่ถูกต้องเราสามารถมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง อารมณ์ที่ผ่อนคลาย คนเริ่มฝึกหายใจ ระยะแรก จะมี ปัญหาการกลั้นหายใจ ปัญหาเรื่องการหายใจ ช่วงระยะเวลาค่อนข้างสั้น แต่ถ้าผู้ฝึกควบคุมลมหายใจได้ถูกต้อง สามารถกลั้นลมหายใจได้หายใจได้ยาวขึ้น จะทำให้ปอดเกิดความแข็งแรงและยืดยุ่น ก็จะสามารถเก็บกักลมได้มาก ก็จะทำให้ปอดประสิทธิภาพที่สูงสุดก็ส่งผลดีถึงหัวใจถึงสมองตามมา
เตรียมความพร้อมการกำหนดลมหายใจ
1.นั่งหลังตรง กับพื้น ให้กระดูกสันหลังตั้งตรง นั่งบนพื้น หนือเก้าอี้ หรือยืนก็ได้
2.วางมือทั้ง 2 ข้างวางที่ท้อง หรือที่เรียกว่า กระบังลม เพื่อที่เราจะได้รับรู้เวลา หายใจเข้า กระดูกซี่โครงจะขยายออก(ท้องพอง) หายใจออก กระดูกซี่โครงจะหุบเข้า(ท้องแพบ)
3.กำหนดลมหายใจนับเลขเริ่มจากสั้นไปยาว (นับเลขไว้ในใจ) หายใจเข้า 1 2 3 หายใจออก 1 2 3เข้า1 2 3 4 ออก 1 2 3 4 เข้า1 2 3 4 5 ออก 1 2 3 4 5เข้า1 2 3 4 5 6 7 8 9 ออก 1 2 3 4 5 6 7 8 9 (แล้วค่อยๆเปิดเปลือกตา)
คำแนะนำ ควรฝึกวันละ2-5 นาที/วัน และควรปล่อยให้ท้องว่างก่อน 1 ชั่วโมง

ทำไมต้องมีวันเข้าพรรษา?


ประเพณีเข้าพรรษาเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยพุทธกาล แรกๆ ยังไม่มีประเพณีนี้ แต่ตอนหน้าฝน ชาวนาทำนากัน เวลาพระเดินก็ไปเหยียบโดนข้าวกล้าบ้าง เหยียบแมลงตายโดยไม่รู้ตัวบ้าง จนชาวบ้านเขาติเตียน ต่อมามีคนไปกราบทูลพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์จึงทรงบัญญัติให้มีการจำพรรษาในช่วงหน้าฝน 3 เดือน คือ ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ช่วง 3 เดือนนี้ พระภิกษุสงฆ์จะอยู่อาวาสเดียวตลอด 3 เดือน ไม่จาริกไปในที่ต่างๆ ประเพณีเข้าพรรษาจึงเกิดขึ้นตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

ประเพณีหล่อเทียนพรรษาเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ในสมัยก่อน กลางคืนต้องอาศัยแสงสว่างจากแสงเทียน เพราะยังไม่มีไฟฟ้า แต่เทียนเล่มเล็กนอกจากมีความสว่างน้อยแล้ว จุดได้ไม่นานก็หมดเล่ม เพราะฉะนั้น เขาก็เลยหล่อเทียนเข้าพรรษาต้นโตๆ ขึ้นมา เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้อาศัยความสว่างจากเทียนพรรษาในการศึกษาพระธรรมวินัยตลอด 3 เดือน

ปกติในเวลาเข้าพรรษาจะมีการถวายเทียน แต่ในปัจจุบันมีการถวายหลอดไฟฟ้าแทน ไม่ทราบว่าต่างกันหรือไม่และบุญที่ได้ต่างกันแค่ไหน?
" โบราณ กล่าว่า ยิ่งทำด้วยความตั้งใจ เจตนาบริสุทธิ์ และมีศรัทธาอย่างแรงกล้าเต็มเปี่ยม บุญยิ่งมหาศาล"

สมัยโบราณไม่มีไฟฟ้า ต้องอาศัยแสงเทียนในการศึกษาพระธรรมวินัย จึงมีการหล่อเทียนพรรษาและถวายเทียนพรรษา และอะไรก็ตามที่ถวายแด่พระรัตนตรัย ท่านจะทำกันสุดฝีมือ เทียนที่หล่อจึงแกะสลักลวดลายอย่างสุดฝีมือ ถือเป็นการแสดงความเคารพพระรัตนตรัย
ในยุคปัจจุบัน ในเมื่อมีไฟฟ้าและ จะศึกษาพระธรรมวินัยก็เปิดไฟได้ ไม่ต้องจุดเทียน ประเพณีการทวายเทียนจึงเป็นแค่ประเพณีเฉยๆ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้จุดด้วยซ้ำไป พอรู้อย่างนี้เราถวายหลอดไฟได้ไหม คำตอบคือได้เหมือนกัน เพราะถวายในสิ่งที่พระท่านได้ใช้ประโยชน์ ทำเพื่ออำนวยความสะดวกในการศึกษาพระธรรมวินัยของท่าน ก็เป็นการดี

ในช่วงเข้าพรรษาควรจะปฏิบัติตนอย่างไร? มีบางคนตั้งใจทำความดี อย่างเช่น งดเหล้า งดบุหรี่ ถือว่าเป็นแนวทางที่ดีหรือเปล่า?
เข้าพรรษาเป็นเทศกาลแห่งการทำความดีคือ ทุกคนต่างตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยและประพฤติปฏิบัติธรรมเป็นพิเศษกว่าช่วงอื่นจึงตั้งใจ งดเหล้า งดสูบบุหรี่ และอบายมุขทั้งหลายด้วย งดตลอด 3 เดือน และจะตั้งใจสวดมนต์ ไปวัดทุกวันพระ ไปฟังเทศน์ฟังธรรม ถือศีล 8 เป็นต้น
ช่วงเข้าพรราพระภิกษุต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง?
ในวันเข้าพรรษา พระจะไปรวมกันที่โบสถ์พร้อมกันทั้งวัด แล้วก็อธิษฐานด้วยการกล่าวคำว่า "อิมสฺมึ อาวาเส อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปม." แปลว่า "ข้าพเจ้าขออธิษฐานอยู่จำพรรษา ณ อาวาสแห่งนี้ตลอด ๓ เดือนนี้ " ตั้งจิตอธิษฐานว่าเราจะอยู่ที่วัด ตลอด ๓ เดือน พอประชุมพร้อมกันเสร็จแล้วพระภิกษุผู้เป็นเถระ เช่น เจ้าอาวาส ก็จะให้โอวาทพระภิกษุ ให้ตั้งใจฝึกฝนปฏิบัติธรรมเป็นพิเศษ และให้ข้อคิดต่างๆ ในการฝึกฝนตนเอง
พระสงฆ์ท่านมีกิจกรรมในระหว่างพรรษาของท่าน แล้วพวกเราสาธุชนจะอธิษฐานพรรษาได้หรือเปล่า?
สาธุชนไม่มีพระวินัยบังคับเรื่องอธิษฐานโดยตรง แต่ในพรรษาเราควรตั้งใจว่า ใน 3 เดือนนี้จะทำความดีอะไรบ้าง สัก 2-3 ประการ อาทิเช่น
1.ใครที่ดื่มเหล้าอยู่ พรรษานี้ต้องตั้งใจว่า จะไม่ยอมให้เหล้าแม้แต่หยดเดียวผ่านลำคอ จะงดสูบบุหรี่และอบายมุขทั้งหลายด้วย ไม่ว่าการพนันเที่ยวกลางคืน งดตลอด 3 เดือน และจะตั้งใจสวดมนต์และนั่งสมาธิทุกวัน
2.ให้จำพรรษาอยู่ในวงกาย กายยาววา กว้างศอก หนาคืบคือเอาใจมาอยู่กับเนื้อกับตัวด้วยการทำสมาธิเอาใจมาหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกาย
***** ถ้าทำอย่างนี้แล้ว พรรษานี้จะเป็นพรรษาแห่งความรุ่งเรืองและความสำเร็จของทุกๆ คน*****
แต่ละวัดมีการจัดกิจกรรมในวันเข้าพรรษาหมือนกัน หรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?
หลักการใหญ่ที่ไม่ต่างกันคือการที่พระภิกษุสงฆ์อยู่ประจำที่ 3 เดือน แล้วศึกษาพระธรรมวินัย แต่รายละเอียดของการปฏิบัติจะเข้มข้นขนาดไหนนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละวัด เช่น บวชแล้วต้องมีการศึกษาพระธรรมวินัย เรื่องนี้เราต้องยอมรับว่า บางวัดอาจจะมีพระน้อย
ประเด็นหลัก คือ บวชแล้วขอให้ได้ศึกษาพระธรรมวินัย อย่าบวชเสียผ้าเหลือ ต้องมีกิจวัตรกิจกรรม มีการฝึกตัวเองที่เข้มข้น ตัวอย่างกิจวัตรที่วัดธรรมกายตอนเช้า ตื่นตี 4 ครึ่ง สวดมนต์ทำวัตรเช้า นั่งสมาธิ พอฟ้าเริ่มสางก็ออกไปบิณฑบาตส่วนหนึ่งอยู่ทำความสะอาดกุฏิ ดูแลสถานที่ต่างๆ ให้เรียบร้อย เวลา 7 โมงเช้า ฉันเช้าพร้อมกัน โดยมีพระอาจารย์มาสอนมารยาทในการขบฉัน 8 โมงครึ่ง สวดมนต์นั่งสมาธิต่อถึงเพล ฉันเพลเสร็จพักกันสักครู่พอบ่ายโมงก็ศึกษาพระธรรมวินัย ตกเย็นก็ช่วยกันทำความสะอาดสถานที่และทำภารกิจต่างๆ 1 ทุ่ม สวดมนต์ นั่งสมาธิ กิจวัตรกิจกรรมเป็นอย่างนี้ตลอด ทุกๆ วัน เพราะฉะนั้น พระบวชใหม่จะได้รับการฝึกฝนอย่างเต็มที่
บวชครบ 3 เดือนแล้ว คนโบราณจะเรียกว่า "ทิด" แปลว่าคนสุก คือกิเลสถูกการบำเพ็ญตบะด้วยการทำความดีบ่มจนสุก แม้ยังไม่ถึงกับหมดกิเลส แต่จากดิบๆ กลายเป็นสุกแล้ว กลายเป็นผู้ที่มีคุณธรรม มีความยับยั้งชั่งใจ เจอปัญหาอะไรก็มีหลักธรรมในพระพุทธศาสนาที่ศึกษามาเป็นหลักในการแก้ไข

กิจกรรมสำหรับผู้หญิงวันเข้าพรรษามีบ้างไหม?
ผู้หญิงก็บวชอุบาสกาแก้วทำบุญตักบาตรถึงคราววันพระวันโกน บางทีไปค้างที่วัดเลย ไปรักษาศีล 8 ไปถืออุโบสถศีล และฟังเทศน์ฟังธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆ
ประวัติความเป็นมาของประเพณีแห่เทียนพรรษา
ก่อนสมัยพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ เป็นผู้สำเร็จราชการเมืองอุบล ชาวอุบลไม่มีการหล่อเทียนแห่เทียนเช่นปัจจุบัน ชาวบ้านจะฟั่นเทียนยาวรอบศีรษะไปถวายพระเพื่อจุดบูชาจำพรรษา ครั้นในสมัยกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ได้เป็นผู้สำเร็จราชการที่ เมืองอุบล คราวหนึ่งมีการแห่บั้งไฟที่วัดกลาง มีคนไปดูมาก ในการแห่บั้งไฟมีการตีกันในขบวนแห่จนถึงแก่ความตาย เสด็จในกรมเห็นว่าไม่ดี จึงให้เลิกการแห่บั้งไฟและเปลี่ยนเป็นการแห่เทียนแทน
การแห่เทียนแต่เดิมไม่ได้จัดใหญ่โตเช่นปัจจุบัน เพียงแต่ชาวบ้านร่วมกันบริจาคเทียน แล้วนำเทียนมาติดกับลำไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ ตามรอยต่อหากระดาษจังโก (กระดาษสีเงินสีทอง) ตัดเป็นลายฟันปลาปิดรอยต่อ เสร็จแล้วนำต้นเทียนไปมัดติดกับปิ๊ปน้ำมันก๊าด ฐานของต้นเทียนใช้ไม้ตีเป็นแผ่นเรียบ หรือทำสูงขึ้นเป้นชั้นๆ ติดกระดาษ เสร็จแล้วมีการแห่นำไปถวายวัด พาหนะที่ใช้นิยมใช้เกวียน หรือล้อเลื่อนที่ใช้วัวหรือคนลากจูง การแห่ของชาวบ้านก็จะมีฆ้อง กลอง กรับ และการฟ้อนรำด้วยความสนุกสนาน
ในระยะเวลาประมาณ พ.ศ.2480 การทำต้นเทียนได้พัฒนาขึ้น ถึงขั้นใช้การหล่อออกจากเบ้าพิมพ์ที่เป็นลายง่ายๆ เช่น ประจำยาม กระจัง ตาอ้อย บัวคว่ำ บัวหงาย ก้ามปู ฯลฯ แล้วนำไปติดที่ลำต้นเทียน ช่างผู้มีชื่อเสียงในทางนี้คือ นายโพธิ์ ส่งศรี ลายที่พ่อใหญ่โพธิ์ทำขึ้นเป็นลายง่ายๆ เช่น ลายประจำยาม กระจังตาอ้อย ใบเทศ บัวคว่ำบัวหงาย พ่อใหญ่โพธิ์เป็นช่างทำต้นเทียน ให้กับวัดทุ่งศรีเมือง ต่อมา นายสวน คูณผล ได้นำวิธีการดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ และประดับฐานต้นเทียนด้วยรูปปั้นสัตว์และลายไม้ฉลุทำให้ดูสวยงามมากขึ้น ผลงานทำต้นเทียน ของนายสวน คูณผล จึงมักจะได้รางวัลชนะเลิศอยู่เป็นประจำ

ประเพณีแห่เทียนพรรษา
งานประเพณีแห่เทียนพรรษา จ.อุบลราชธานี นอกจากจะเป็นงานที่แสดงออกถึง การยึดมั่นสืบสานงานบุญทางพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัดของชาวเมืองอุบลฯ แล้ว ยังเป็นงานที่แสดงออกถึงวิวัฒนาการด้านศิลปะของสกุลช่างเมืองอุบลฯ อีกด้วย ทั้งนี้ เนื่องจาก บรรดาช่างศิลป์เมืองอุบลฯ ที่มีอยู่มากมายหลากหลายแขนง และผลิตงานด้านศิลปอย่างต่อเนื่องตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปร่วมสมัย งานหัตถกรรมพื้นบ้าน และงานก่อสร้างตกแต่งโบสถ์วิหารต่างๆ จะใช้โอกาสในช่วงเทศกาลนี้กลับมาทดสอบ ทดลอง และประลองฝีมีเชิงช่าง โดยผ่านต้นเทียนพรรษา ดังนั้น ผู้ที่มาร่วมงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี จึงสามารถชื่นชม และศึกษากิจกรรมของงาน ทั้งในด้านการสืบสานจารีตประเพณีพื้นเมือง และในด้านศิลปการตกแต่งต้นเทียนกิจกรรมภายในงานที่สำคัญ ๆ ได้แก่
1. เยือนชุมชน ชมวิถีวัฒนธรรมการตกแต่งต้นเทียน
การไปเยือนชุมชน หรือ คุ้มวัดต่าง ๆ ในช่วงที่กำลังเตรียมการตกแต่งต้นเทียน คือในช่วงประมาณ 2-3 วัน ก่อนวันแห่นั้น นอกจากผู้มาเยือนจะได้ศึกษากรรมวิธีและขั้นตอน การตกแต่งเทียนอันเป็นปัญญาของท้องถิ่นแล้ว ยังจะได้สัมผัสบรรยากาศการร่วมแรงร่วมใจ ของชุมชนในการทำกิจกรรมทางพุทธศาสนา ซึ่งถือเป็นวิถีวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สำคัญของชาวอุบลฯ สำหรับคุ้มวัดที่น่าสนใจ เช่น วัดบูรพา วัดหนองบัว วัดสว่างอารมณ์ วัดศรีประดู่ทรงธรรม วัดสุทัศวนาราม วัดทุ่งศรีเมือง และวัดผาสุการาม เป็นต้น
2. การเวียนเทียนวันอาสาฬบูชาที่วัดงามในเมืองอุบลฯ
การเวียนเทียนเนื่องในวันอาสาฬหบูชาจัดขึ้นในช่วงค่ำของ ตามวัดต่างๆ โดยทั่วไปกิจกรรมนี้ นอกจากจะเป็นกิจกรรมที่สำคัญ ของพุทธศาสนิกชนแล้ว ยังเป็นโอกาสอันดีของผู้เข้าร่วมกิจกรรม ที่จะได้ชื่นชมเอกลักษณ์ ทางสถาปัตยกรรมพื้นเมือง อันงดงามตามวัดต่างๆ ในอีกมิติหนึ่ง
3. การตั้งแสดงต้นเทียนรอบทุ่งศรีเมือง
ในช่วงค่ำของวันอาสาฬหบูชา จะเป็นเวลาที่ต้นเทียน พรรษาจากคุ้มวัดต่างๆ กว่า 30 ต้น จะถูกเคลื่อนย้ายมาตั้งไว้ ณ บริเวณถนนรอบๆ ทุ่งศรีเมือง เพื่อเตรียมการเข้าร่วมขบวนแห่ในเช้าวันรุ่งขึ้น ในช่วงนี้ ต้นเทียนจะได้รับการตกแต่งอย่างสมบูรณ์ ประกอบกับสถานที่ตั้ง จะได้รับการจัดเตรียมไว้อย่างดี เช่น การเตรียมแสงไฟ ไว้สาดส่องต้นเทียน การประดับประดาบริเวณงาน อย่างเป็นระเบียบ ดังนั้น ในช่วงเวลาดังกล่าว จึงเป็น ช่วงเวลาที่ดีที่สุด ในการชื่นชมศิลปการตกแต่งเทียนอย่างละเอียดละออ โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องเวลา และอาจกล่าวได้ว่าเป็นการแสดงศิลปะตกแต่งเทียนที่งดงาม และสมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทย
4. กิจกรรมขบวนแห่เทียนพรรษา
จะจัดขึ้นในวันรุ่งขึ้น คือวันเข้าพรรษา ตั้งแต่เวลา ประมาณ 08.00 น. เป็นต้นไป โดยจะเคลื่อนขบวนไปตามถนนอุปราช ผ่านหน้าศาลากลาง ไปถนนชยางกูร เป็นระยะทางประมาณ2-3 กม. จึงสลายขบวน รูปแบบของการจัดขบวนประกอบด้วย ขบวนเทียนหลวงพระราชทาน ขบวนต้นเทียนของคุ้มวัดต่าง ๆ ซึ่งแต่ละขบวนจะประกอบด้วยการแสดง การละเล่น การฟ้อนรำ การบรรเลงดนตรีในรูปแบบของศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง การเข้าชมขบวนแห่ คณะกรรมการจัดงาน จะจัดเตรียมอัฒจันทร์นั่งชมไว้บริการ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด
และเราก็มีเรื่องเล่าฤดูกาลเข้าพรรษาช่วงเวลาแห่งการฝึกฝนแก้ไขปรับปรุงตนเองของพระภิกษุสามเณรและสาธุชนทั่วไป
ความกตัญญูทำให้เป็นผู้มีปัญญา คนที่มีความกตัญญูกตเวทีนั้น ทุกลมหายใจเข้าออก เป็นเรื่องของการหาช่องทางทุ่มเทสติปัญญาความรู้ความสามารถ เพื่อการตอบแทนคุณจึงเป็นการเพิ่มพูนสติปัญญาขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

วันภาษาไทยแห่งชาติ

วันภาษาไทยแห่งชาติ

วันภาษาไทยแห่งชาติ
เว็บไซต์กูเกิลเปลี่ยนภาพ Doodle ในหน้า GoogleSearch เป็นตัวอักษรเป็นภาษาไทย พร้อมภาพไก่และลิง เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ วันนี้ (29 ก.ค.)
เว็บไซต์กูเกิล ได้เปลี่ยนภาพ Doodle ในหน้า Google Search เป็นตัวอักษรเป็นภาษาไทย พร้อมภาพไก่และลิง เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ วันนี้ (29 ก.ค.) โดยในวันนี้หลายหน่วยงานได้จัดงานเนื่องในวันภาษาไทย อาทิ กระทรวงวัฒนธรรม จะมีการมอบรางวัลเชิดชูเกียรติพิเศษ หลังดำเนินการประกวดเพลง (เพชรในเพลง) เพื่อยกย่องบุคคลในวงการเพลง ที่มีผลงานดีเด่นด้านภาษาไทย ส่วนราชบัณฑิตยสถาน จัดวันภาษาไทยแห่งชาติ ในหัวข้อ "ภาษาไทย ภาษาอาเซียน" ที่สนามเสือป่า เขตดุสิต กรุงเทพฯ

ความเป็นมาของวันภาษาไทยแห่งชาติ

สืบเนื่องจากเมื่อ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานและทรงอภิปรายเรื่อง " ปัญหาการใช้คำไทย " ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิในการประชุมทางวิชาการของชุมนุมภาษาไทย คณะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งความว่าณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งทรงแสดงพระปรีชาสามารถและความสนพระราชหฤทัยห่วงใยในภาษาไทย จนเป็นที่ประทับใจผู้ร่วมประชุมครั้งนั้นเป็นอย่างยิ่ง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งความว่า...
"...เรามีโชคดีที่มีภาษาของตนเองแต่โบราณกาล จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะรักษาไว้ ควรจะใช้คำเก่าๆ ที่เรามีอยู่แล้ว ไม่ควรจะมาตั้งศัพท์ใหม่ให้ยุ่งยาก..." ปัญหาเฉพาะในด้านรักษาภาษาก็มีหลายประการ อย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในทางออกเสียง คือให้ออกเสียงให้ถูกต้องชัดเจน อีกอย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในวิธีใช้ หมายความว่าวิธีใช้คำมาประกอบประโยค นับเป็นปัญหาที่สำคัญ ปัญหาที่สามคือความร่ำรวยในคำของภาษาไทย ซึ่งพวกเรานึกว่าไม่ร่ำรวยพอ จึงต้องมีการบัญญัติศัพท์ใหม่มาใช้ ... สำหรับคำใหม่ที่ตั้งขึ้นมีความจำเป็นในทางวิชาการไม่น้อย แต่บางคำที่ง่ายๆ ก็ควรจะมี รัฐบาลจึงได้ประกาศให้วันดังกล่าวเป็นวันสำคัญ ตั้งแต่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 เป็นต้นมา

ความสำคัญของภาษาไทย

ภาษาเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ ภาษาเป็นสื่อใช้ติดต่อกันเเละทำให้วัฒนธรรมอื่นๆเจริญขึ้น เเต่ละภาษามีระเบียบของตนเเล้วเเต่จะตกลงกันในหมู่ชนชาตินั้น ภาษาจึงเป็นศูนย์กลางยืดคนทั้งชาติ ดังข้อความ ตอนหนึ่งในพระราชนิพนธ์ในพระบาท สมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง "ความเป็นชาติโดยเเท้จริง" ว่า ภาษาเป็นเครื่องผูกพันมนุษย์ต่อมนุษย์เเน่นเเฟ้นกว่าสิ่งอื่น เเละไม่มีสิ่งใด ที่จะทำให้คนรู้สึกเป็นพวกเดียวกันหรือเเน่นอนยิ่งไปกว่าภาษาเดียวกัน รัฐบาลทั้งปวงย่อมรู้สึกในข้อนี้อยู่ดี เพราะฉะนั้น รัฐบาลใดที่ต้องปกครองคนต่างชาติต่างภาษา จึงต้องพยายามตั้งโรงเรียนเเละออกบัญญัติบังคับ ให้ชนต่างภาษาเรียนภาษาของผู้ปกครอง เเต่ความคิดเห็นเช่นนี้ จะสำเร็จตามปรารถนาของรัฐบาลเสมอก็หามิได้ เเต่ถ้ายังจัดการเเปลง ภาษาไม่สำเร็จอยู่ตราบใด ก็เเปลว่า ผู้พูดภาษากับผู้ปกครองนั้นยังไม่เชื่ออยู่ตราบนั้น เเละยังจะเรียกว่าเป็นชาติเดียวกันกับมหาชนพื้นเมืองไม่ได้ อยู่ตราบนั้น ภาษาเป็นสิ่งซึ่งฝังอยู่ในใจมนุษย์เเน่นเเฟ้นยิ่งกว่าสิ่งอื่น"
ดังนั้นภาษาก็เปรียบได้กับรั้วของชาติ ถ้าชนชาติใดรักษาภาษาของตนไว้ได้ดี ให้บริสุทธิ์ ก็จะได้ชื่อว่า รักษาความเป็นชาติ
คนไทยทุกคนใช้ภาษาไทยเป็นสื่อความรู้สึกนึกคิดเท่านั้นยังไม่เพียงพอ ควรจะรักษาระเบียบความงดงามของภาษา ซึ่งเเสดงวัฒนธรรม เเละ เอกลักษณ์ประจำชาติไว้อีกด้วย ดัง พระราชดำรัส สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตอนหนึ่งว่า

"ภาษานอกจากจะเป็นเครื่องสื่อสารเเสดงความ รู้สึกนึกคิดของคนทั่วโลก เเล้ว ยังเป็นเครื่องเเสดงให้เห็นวัฒนธรรม อารยธรรม เเละเอกลักษณ์ ประจำชาติอีกด้วย ไทยเป็นประเทศซึ่งมีขนบประเพณี ศิลปกรรมเเละภาษา ซึ่งเจริญรุ่งเรืองมาแต่อดีตกาล เราผู้เป็นอนุชนจึงควรภูมิใจ ช่วยกัน ผดุงรักษามรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่บรรพบุรุษได้ อุตส่าห์สร้่างสรรค์ขึ้นไว้ให้เจริญสืบไป "
คลิปสุดน่ารัก "สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ทำขึ้นในวันภาษาไทยแห่งชาติ"

อาการคนท้อง


อาการคนท้อง
สวัสดีค่ะ วันนี้มีเรื่องอาการคนท้องมาเล่าให้ฟังกันค่ะ สำหรับคุณแม่มือใหม่ หรือใครก็ตามที่อยากรู้ว่าอาการคนท้องนั้นเป็นอย่างไร
มีวิธีสังเกตุด้วยตัวเองง่ายๆ ดังนี้ค่ะ
- ประจำเดือนไม่มา อันนี้แน่นอนค่ะ เป็นสิ่งแรกที่ต้องดูก่อนเลย
- คัดเต้านม ให้ดูว่ามีอาการคัดเต้านมหรือปล่าว ถ้ามีก็มีโอกาสท้องค่ะ
- อยากทานอาหารแปลกๆ ถ้ามีอาการนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของอาการคนท้องค่ะ
- จมูกไวต่อกลิ่น คนท้องจมูกจะไวต่อกลิ่นมากๆค่ะ
- อาเจียน วิงเวียนศีรษะ เป็นอาการคนท้องยอดฮิตเลยค่ะ อาการนี้
- อ่อนเพลีย อยากพักผ่อน คนท้องส่วนใหญ่ก็จะมีอาการอ่อนเพลียอยากพักผ่อนมากขึ้นค่ะ
- อารมณ์แปรปรวน คนท้องอารมณ์จะค่อนข้างแปรปรวนเปลี่ยนแปลงบ่อยค่ะ
- ปัสสาวะบ่อยขึ้น เป็นอีกหนึ่งอาการค่ะ
- ท้องผูก ก็เป็นอีกหนึ่งอาการคนท้องค่ะ
ทั้งหมดนี้เป็นอาการคนท้องที่มักจะพบบ่อยค่ะ ถ้ามีอาการทั้งหมดที่ว่ามานี้ ก็มีโอกาสมากที่จะท้องค่ะ แต่ถ้าอยากเอาชัวร์ไปพบแพทย์จะชัวร์กว่าค่ะ

วิธีทําให้ผิวขาว

วิธีทําให้ผิวขาว


วิธีทําให้ผิวขาว
สวัสดีค่ะ วันนี้มี วิธีทําให้ผิวขาว มาฝากกันค่ะ
เชื่อว่าใครๆหลายๆคนคงอยากผิวขาว แต่ไม่รู้จะทำยังไง อยากใช้โน่นใช้นี่ แต่ก็กลัว
ลองนำวิธีทําให้ผิวขาวแบบธรรมชาติไปลองใช้กันดู ดังนี้น่ะค่ะ
วิธีทําให้ผิวขาวสูตรโยเกิร์ตผสมมะนาว
ให้เรานำน้ำมะนาวมาผสมโยเกิร์ตแล้วนำไปทาผิวทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที มะนาวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่ขาวสดใสกว่าเดิมค่ะ ส่วนโยเกิร์ตจะช่วยลดการระคายเคืองผิวค่ะ
วิธีทําให้ผิวขาวสูตรกล้วยหอมผสมนมสด
ให้เรานำกล้วยหอมและนมสดมาบดผสมกัน แล้วนำไปพอกผิวในบริเวณที่ต้องการ กล้วยหอมและนมสดจะทำให้ผิวขาวเนียนสวยได้ค่ะ
วิธีทําให้ผิวขาวสูตรมะละกอผสมนมสด
ให้เรานำมะละกอและนมสดมาบดผสมกัน แล้วนำไปพอกบนใบหน้าหรือผิวกายทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออก สูตรนี้คล้ายๆกับสูตรกล้วยหอมและนมสดน่ะค่ะ
วิธีทําให้ผิวขาวสูตรน้ำผึ้งผสมโยเกิร์ต
ให้เรานำน้ำผึ้งและโยเกิร์ตมาผสมกัน คนให้เข้ากัน แล้วนำไปพอกลงบนใบหน้าหรือผิวกายประมาณ 30 นาที แล้วล้างออก น้ำผึ้งและโยเกิร์ตจะช่วยให้ผิวขาวและนุ่มขึ้นได้ค่ะ
วิธีทําให้ผิวขาวสูตรน้ำมันมะพร้าว
ให้เรานำน้ำมันมะพร้าวมาทาผิวได้เลยค่ะ เป็นสูตรโบราณที่ใช้ได้ผลมาก น้ำมันมะพร้าวจะช่วยทำให้ผิวขาวเนียนนุ่มชุ่มชื่นค่ะ
สำหรับใครที่อยากผิวขาว ลองนำวิธีทําให้ผิวขาวเหล่านี้ไปใช้กันดูน่ะค่ะ

สิ่งของที่ห้ามนําขึ้นเครื่องบิน


สิ่งของที่ห้ามนําขึ้นเครื่องบิน
มาดู สิ่งของที่ห้ามนําขึ้นเครื่องบิน กันค่ะ สำหรับคนที่ ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก หรือยังไม่รู้ว่าในการขึ้นเครื่องบินนั้น ของที่ห้ามนําขึ้นเครื่องบิน นั้นมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
หลักเกณฑ์และวิธีการปฎิบัติเกี่ยวกับการนำสัมภาระติดตัวประเภทของเหลว เจล หรือสเปรย์ขึ้นเครื่องบินตามประกาศของกรมการขนส่งทางอากาศซึ่งสอดคล้องกับแนวทางปฎิบัติของ ICAO ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 1 มิ.ย.2550

1. ของเหลว เจล หรือ สเปรย์ ตามประกาศของกรมการขนส่งทางอากาศ ได้แก่ น้ำ เครื่องดื่ม ครีม โลชั่น ออยส์ น้ำหอม สเปรย์ เจลใส่ผม เจลสำหรับอาบน้ำ โฟมชนิดต่างๆ ยาสีฟัน น้ำยากำจัดกลิ่นตัว และของอื่น ๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกัน

2. ของเหลวซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฎิบัติตามประกาศฉบับนี้ ได้แก่ นมและอาหารสำหรับเด็ก ยา ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งได้ให้พนักงานที่จุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัยตรวจสอบแล้ว

3. การปฎิบัติตามประกาศฉบับนี้ให้ใช้กับทุกเที่ยวบินทั้งเที่ยวบินระหว่างประเทศและเที่ยวบินภายในประเทศ ซึ่งเดินทางออกจากสนามบินในประเทศไทย

4. ห้ามผู้โดยสารนำสัมภาระติดตัวซึ่งมีของเหลว เจล หรือ สเปรย์ ขึ้นเครื่องบิน

เว้นแต่จะได้ดำเนินการดังต่อไปนี้
4.1 ของเหลว เจล สเปรย์ หรือวัตถุและสารอื่นๆซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันต้องบรรจุในภาชนะซึ่งมีปริมาณความจุไม่เกิน 100มิลลิลิตร (หรือปริมาณที่เทียบเท่ากันในหน่วยวัดปริมาตรอื่น) สำหรับภาชนะซึ่งมีปริมาณความจุเกิน 100 มิลลิลิตรจะนำขึ้นเครื่องบินไม่ได้แม้ว่าจะบรรจุของเหลว เจล สเปรย์ หรือวัตถุและสารอื่นๆซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันไว้เพียงเล็กน้อย

4.2 ภาชนะที่ใส่ของเหลว เจล สเปรย์ หรือวัตถุและสารอื่นๆซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกัน ต้องใส่รวมไว้ในถุงพลาสติกใสที่มีปริมาณความจุไม่เกิน 1 ลิตร (ประมาณ 20X20 ซม.)และสามารถปิดผนึกได้ (Transparent Re-Sealable Plastic Bag) โดยต้องปิดผนึกปากถุงให้เรียบร้อย

4.3 ผู้โดยสารสามารถนำถุงพลาสติกใสขึ้นเครื่องบินได้คนละ 1 ถุง

4.4 ผู้โดยสารต้องแยกถุงพลาสติกใสซึ่งใส่ภาชนะของเหลว เจล หรือ สเปรย์ ออกจากสัมภาระติดตัวอื่นๆ รวมทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา (Laptop Computer) และเสื้อคลุม เมื่อถึงจุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย (Security Screening Point)

5. ของเหลว เจล หรือ สเปรย์ซึ่งซื้อจากร้านค้าปลอดอากร (Duty Free Shops) ที่สนามบินหรือซื้อบน เครื่องบินต้องบรรจุไว้ในถุงพลาสติกใสซึ่งปิดผนึกปากถุงและไม่มีร่องรอยผิดปกติให้สงสัยว่ามีการเปิดปากถุงหลังจากการซื้อ และมีหลักฐานแสดงว่าซื้อจากร้านค้าปลอดอากรที่สนามบินหรือบนเครื่องบินในวันที่ผู้โดยสารนั้นๆเดินทาง

ผู้โดยสารที่ต้องการจะซื้อสินค้าซึ่งเป็นของเหลว เจล หรือ สเปรย์ จากร้านค้าปลอดอากรที่สนามบิน ต้องตรวจสอบข้อมูลจากสายการบินหรือร้านค้าปลอดอากรที่สนามบิน เกี่ยวกับการปฎิบัติต่อของเหลว เจล หรือ สเปรย์ที่สนามบินซึ่งเป็นจุดปลายทางของการเดินทางและสนามบินทุกแห่งที่ผู้โดยสารต้องลงจากอากาศยานเพื่อแวะพักหรือเปลี่ยนลำอากาศยานก่อนที่จะซื้อสินค้าดังกล่าว

สำหรับการดำเนินการกับของเหลว สเปรย์ และเจลก่อนขึ้นเครื่องบินที่ ICAO แนะนำให้สนามบินปฏิบัติ คือ

1. ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารนำของเหลวทุกชนิดที่มีความจุเกิน 100 มิลลิลิตรขึ้นอากาศยาน

2. ภาชนะที่บรรจุของเหลวต้องเป็นภาชนะพลาสติกใสที่สามารถเปิด-ปิดได้ (Re-sealable) โดยภาชนะดังกล่าวต้องมีความจุไม่เกิน 1 ลิตร และต้องถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์

3. หลังจากผ่านเครื่อง X-ray แล้ว ภาชนะพลาสติกใสต้องถูกตรวจสอบด้วยสายตาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผู้โดยสาร 1 คนสามารถนำภาชนะพลาสติกขึ้นเครื่องได้คนละ 1 ใบเท่านั้น

4. มาตรการนี้ไม่รวมถึงยารักษาโรค นม และอาหารของเด็กทารก รวมทั้งอาหารชนิดพิเศษสำหรับผู้ป่วย

5. เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ ควรนำถุงพลาสติกใสที่บรรจุของเหลวตรวจแยกต่างหากจากกระเป๋าสัมภาระอื่นๆ

6. มาตรการนี้ไม่รวมถึงของเหลวที่จำหน่ายจากร้านค้าหลังจุดตรวจค้น โดยของเหลวดังกล่าวต้องบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสที่ปิดผนึกอย่างดี และจะต้องพร้อมได้รับการตรวจตามความจำเป็น

รู้แบบนี้แล้วว่า สิ่งที่ห้ามนําขึ้นเครื่องบิน นั้นมีอะไรบ้าง เราก็อย่านำไปขึ้นเครื่องน่ะค่ะ ไม่งั้น ทางสนามบินเขาบังคับให้เราทิ้งของดังกล่าวแน่นอนค่ะ

วิธีทำให้สูง

วิธีทําให้สูง



วิธีทําให้สูง
สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีวิธีทําให้สูงมาฝากกันค่ะ เป็นเคล็ดลับแบบไม่ลับกับวิธีทําให้สูงเพื่อเพิ่มความสูงค่ะ
ความสูงกลายเป็นปัญหาที่น่ากังวลกับหลายๆคน เพราะ คนที่ตัวสูงยาวเข่าดีจะแลดูมีบุคลิกดีกว่า คนที่ตัวเล็ก ถ้าเป็นสมัยเด็กๆ พ่อแม่ก็จะคะยั้นคะยอให้เราดื่มนมกันเยอะๆ เพราะถ้าผู้หญิงเมื่อเริ่มมีประจำเดือนความสูงก็จะคงที่ แต่วันนี้ผู้เขียนมีวิธีทําให้สูงเพื่อเพิ่มความสูงสำหรับสาวๆอายุเกิน 18 ปีมาฝากด้วยนะคร้า ว้าว....ตาโตกันหละสิ
- เริ่มตั้งต้นด้วย การออกกำลังกายกันเป็นประจำ สม่ำเสมอ เช่น เดินออกกำลังในตอนเช้า การออกกำลังจะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตได้ดี
- จากนั้นก็กลับบ้านมารับประทานอาหารเช้ากันสักหน่อย การรับประทานอาหารตอนเช้าจะช่วยให้กระบวนการเมตาบอลิซึมทำงานได้ดีขึ้น พยายามรับประทานอาหารมื้อเล็กแต่บ่อยๆนะคะ
- พยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดผลเสีย ต่อการเจริญเติบโตตามธรรมชาติ เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทราบมั้ยคะปัจจัยเหล่านี้ นอกจากจะส่งผลเสียต่อร่างกายหลายๆ อย่างแล้ว ยังจะมีผลทำให้ร่างกายของขาดสารอาหารที่มีผลต่อการเจริญเติบโตได้อีกด้วย
- นอกจากนั้นเวลายืน หรือ เดินควรยืดคอและศีรษะให้ตั้งตรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือเวลาทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงาน หรือเล่นคอมพิวเตอร์ กิจกรรมเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อความโค้งของกระดูกสันหลัง ได้ด้วยนะคะ ซึ่งจะทำให้มีบุคลิกภาพที่ไม่ดี และยังทำให้ความสูงลดลงได้อีกด้วย ดังนั้นจึงควรนั่ง หรือเดินหลังตรงเพื่อให้กระดูกสันหลังอยู่ในท่าที่เหมาะสม
- พอถึงเวลาเข้านอนก็เข้านอนแต่หัวค่ำ เวลาที่ดีที่สุด คือ ไม่เกิน 4 ทุ่ม และพยายามนอนให้หลับสนิท หลับให้ลึกที่สุด ทราบมั้ยคะว่าเวลากลางคืนเป็นเวลาที่ร่างกายเติบโตได้ดีที่สุด Growth Hormone จะทำงานได้ดีตอนกลางคืน นอกจากนั้นเวลานอนควรปิดไฟให้สนิท หรือ เปิดไฟหรี่ที่สุด เพราะไฟหรี่ หรือ ความมืดจะทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายมากที่สุด และร่างกายจะเจริญเติบโตได้ดีในภาวะไร้ความตึงเครียด
ลองปฏิบัติตามวิธีทําให้สูงข้อต่างๆ เหล่านี้ดูนะคะ ไม่ได้ยากมากมายอะไร เป็นวิธีทําให้สูงที่เราสามารถทำได้ในชีวิตประจำวันของเราทั้งสิ้นค่ะ เผื่อพวกเราจะสูงขึ้นอีกสัก 2-3 เซนติเมตรน่ะค่ะ

ไอโฟนสั่นไม่หยุด



                                                   ไอโฟนสั่นไม่หยุด


สวัสดีค่ะ วันนี้มีวิธีแก้ปัญหาไอโฟนสั่นไม่หยุดมาแนะนำกันค่ะ
หลายๆคนคงเคยเจอปัญหา iphone สั่นไม่หยุด กดปุ่มอะไรก็ไม่ได้ แล้วตกใจทำอะไรไม่ถูกเลยใช่ไหมค่ะ
บ้างก็นึกว่า ไอโฟน เสียแล้วแน่เลย ไม่ต้องตกใจค่ะ จริงๆ แล้วมีวิธีแก้ไขอาการไอโฟนสั่นไม่หยุดให้หายกันได้ง่ายๆ โดยให้ทำดังนี้น่ะค่ะ
วิธีแก้ไอโฟนสั่นไม่หยุด ให้ กดปุ่ม home กับ ปุ่มปิดเครื่อง พร้อมกันค้างไว้ แล้วเครื่องจะ reset ตัวใหม่ แล้วอาการสั่นไม่หยุดก็จะหายไปเองค่ะ
เพียงเท่านี้ก็สามารถแก้ปัญหาไอโฟนสั่นไม่หยุดกันได้แล้วโดยไม่ต้องพาเครื่องไปซ่อมเลยค่ะ