วันที่: 30/07/2013 | หมวด: Apple, Article, Exclusive, Featured, iOS, iPad, iPhone, iPod, iTunes, News, Thai, Tips| แท็ก: bug, did you know, ios, ipad, iPhone, ipod touch, itunes, problem, tips
นับเป็นปัญหาของผู้ใช้ iPhone, iPad, iPod Touch ที่แปลกแต่พบเจอกันหลายคนมาก เมื่อมีการแจ้งเตือนว่ามีแอพที่ต้องการอัพเดตบน App Store แต่พอเรากดไปที่หน้า Update กลับขึ้นหน้าจอว่างเปล่า หรือมีข้อความเตือนว่า “Cannot Connect to iTunes Store” ซะงั้น
แต่เนื่องจากปัญหานี้เจอกันแค่บางคน และบางเครื่อง ซึ่งหาที่มาที่ไปแบบชัดเจนยาก ทางทีมงาน MacThai เลยขอเสนอวิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้นดังนี้
ทำไมถึงเจอหน้าจอว่างเปล่า ?
อย่างแรกคือปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับคุณ ไม่ได้เกิดแค่กับคนไทย แต่เกิดขึ้นกับทั้งโลก !! และมีผู้สอบถามเข้าไปใน Apple Forum จำนวนมาก ซึ่งยังไม่มีการออกมาแจ้งวิธีการแก้ไขแต่อย่างใด
โดยมีการคาดกันว่าปัญหาน่าจะเกิดกับค่าบางอย่างใน Apple ID ของเรา กับ App Store มีการส่งข้อมูลผิดพลาด ทำให้หน้าจอ Update แสดงผลไม่ถูกต้อง
ทำให้วิธีการแก้ปัญหามีหลายสิบรูปแบบ มีหลายคนที่ใช้หลายวิธีแล้วไม่สำเร็จ แต่บางคนใช้แค่วิธีเดียวก็สำเร็จ เพราะฉะนั้น เราจะขอนำเสนอวิธีแก้ไขแบบที่ง่ายสุด มีผลกระทบน้อยสุด ไปวิธีขั้น Advance และหากยังแก้ไขไม่ได้แนะนำให้นำเครื่องไปที่ศูนย์บริการครับ
วิธีแก้ปัญหาชั่วคราว
- เปิดไปที่ App Store
- ไปที่หน้า Purchased (แอพที่เคยซื้อไปแล้ว)
- กดปุ่ม Update ทีละแอพจากในหน้านั้นเอา
1. ปิด App Store แล้วเปิดใหม่
- วิธีแสนง่าย ซึ่งหลายคนน่าจะทำเป็นอยู่แล้ว
- เปิดเครื่อง กดปุ่ม Home รัวๆ 2 ครั้ง
- เลือกไปที่ไอคอน App Store แตะที่ไอคอนแช่ไว้ จนไอคอนมีลักษณะสั่นไปมา
- กดปุ่มปิดที่อยู่ขวาบน
- เมื่อแอพหายไปแล้ว ลองเปิด App Store ขึ้นมาใหม่
ถ้าลองแล้วยังไม่หาย ลองทำวิธีข้อต่อไป
2. Sign Out – Apple ID
*หมายเหตุ: วิธีนี้ไม่เหมาะกับคนที่ไปลงแอพตู้หรือไปใช้ Apple ID คนอื่นมาลงแอพในเครื่อง
- ทำตามวิธีที่ 1 อีกครั้ง แต่ยังไม่ต้องเปิด App Store ขึ้นมา
- ไปที่หน้า Setting เลือกไปที่ App Store
- กดไปที่ Apple ID ที่เราเลือกอยู่
- จะมีหน้าจอ Popup ขึ้นมา กด Sign Out
- รอจนไม่มีชื่อ Apple ID เราในหน้าจอแล้ว จากนั้นกด Sign In ใหม่อีกครั้ง
- กลับไปเปิดที่ App Store ดูว่าหายรึเปล่า
3. Clear Cookie ใน Safari
- เปิดไปที่ Setting
- เข้าไปที่ Safari -> Clear Cookies and Data
- คอนเฟิร์ม
- ปิด App Store ตามวิธีที่ 1 แล้วลองเข้าไปอีกครั้ง
4. Reset All Setting
*หมายเหตุ: วิธีนี้จะทำให้ค่า Setting ในเครื่องกลับมาเป็นค่าเริ่มต้น เช่นภาษา, คีย์บอร์ด หากคุณมีการ Setting อะไรที่แปลกไปจากปกติ ควรจดจำค่านั้นไว้ก่อน
- เปิดไปที่ Setting
- เข้าไปที่ General -> Reset (อยู่ล่างสุด)
- เลือกไปที่ Reset All Setting จากนั้นก็คอนเฟิร์มตามที่ระบบแจ้งเตือน
- สำคัญมาก !! อย่ากดผิดไปเลือกที่ Erase All Content and Settings เพราะนั่นหมายความว่าข้อมูล, รุปภาพ, แอพ ทุกอย่างในเครื่องจะหายไป
- Restart เครื่องหนึ่งครั้ง ลองเช็คดูว่าหายหรือไม่
5. Update Firmware ตัวล่าสุด
*หมายเหตุ: วิธีนี้อาจจะทำให้เครื่องช้าลงได้ กรณีที่คุณใช้ iPhone 3GS, iPhone 4 และยังไม่ได้ใช้ iOS 6 ตัวล่าสุด เครื่องคุณอาจจะช้าลง และกลับมา iOS รุ่นก่อนหน้าไม่ได้
- แนะนำ Backup ข้อมูลทุกอย่างไว้ก่อน โดยเสียบเครื่องเข้ากับคอมฯ แล้วเปิด iTunes จากนั้นกด Backup ข้อมูลทั้งหมด
- กรณีใช้ iOS 6 : เข้าไปที่ Setting -> General -> Software Update
- กรณีใช้ iOS 5 : เสียบเครื่องเข้ากับคอมฯ -> เปิด iTunes -> เลือก Update Software ไปเป็นเวอร์ชันล่าสุด
หากวิธีทั้งหมดนี้ยังไม่สามารถแก้ไขได้ ควรนำเครื่องไปให้ที่ศูนย์บริการช่วยดูครับ ใครทดลองแล้วสามารถแก้ปัญหาได้ / ไม่ได้ อย่าลืม Comment บอกต่อกันด้วยนะจ๊ะ
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น